วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

Unboxing | Tapestry - WEAVER




















Album: Tapestry (Debut Mini Album)
Artist: WEAVER
Release: 2010.02.03
Label: A-sketch Music Label / Amuse.inc
Catalog Number: AZCS-1003
Number of Disc: 1 (CD)
Price: 1400 yen (tax out)
Special Bonus:      

Tracklist
01.トキドキセカイ
02.白朝夢
03.レイス
04.青に変わって
05.2次元銀河
06.ネバーランド


วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

J.Artist Next to :: RYTHEM วงดูโอ้กับยุคสมัยที่รุ่งเรืองที่สุด

สวัสดีครับ
เชื่อว่าหลายๆท่านที่เป็นคออนิเทพญี่ปุ่นคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอนิเมะนินจายอดฮิตอย่าง "นารูโตะ" ซึ่งในช่วงปีแรกๆที่เริ่มฉายผ่านทางทีวีทั้งในญี่ปุ่นและไทยก็ได้สร้างกระแสถล่มวงการอนิเมะในญี่ปุ่นจนดังเป็นพลุแตกและยังคงได้รับความนิยมที่ดีมาจนถึงปัจจุบันแม้ซีรี่ส์จะปิดฉากลาจอไปเมื่อปี 2015 แล้วก็ตาม แต่นอกจากที่นารูโตะจะแจ้งเกิดในปี 2004 แล้ว ยังมีเพลงประกอบที่ดังเปรี้ยงปร้างจนสร้างชื่อเสียงให้กับวงดนตรีคู่หูดูโอ้อย่างวง "RYTHEM" ที่มีสมาชิกเป็นผู้หญิงทั้งสองคน ซึ่งนับเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเพลงญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และเช่นเดียวกันเมื่อมีวันพบก็มีวันจาก ณ วันนี้ทั้งสองสาวก็ได้ปิดฉากวง RYTHEM ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2011 สำหรับช่วง 7 ปีที่วง RYTHEM สร้างงานเพลงมามีเหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราจะมาเปิดแฟ้มผลงานของพวกเธอไปพร้อมๆกันครับ



จุดเริ่มต้นของวงเริ่มขึ้นเมื่อช่วงที่พวกเธอกำลังเรียนอยู่มัธยมและด้วยความฝันและความสามารถที่ทั้งสองต่างมีและต่างชอบเหมือนๆกัน จึงทำให้ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันและเดินเข้ามาตามหาความฝัน
จนไปสะดุดตาค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่มิวสิกเจแปน และได้รับโอกาสทำซิงเกิ้ลของตัวเองจนมีซิงเกิ้ลแรกที่ดังระเบิดระเบ้ออย่างเพลง Harmonia ที่ตอนนั้นถูกนำไปประกอบอนิเมะนินจาอย่าง NARUTO ยิ่งทำให้ดังจนกลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ยอดนิยมทีี่ทำให้สถิติการขายแผ่นไปมากกว่า 7 หมื่นแผ่น ซึ่งกลายเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการเจป็อปในขณะนั้นไปอย่างง่ายดาย

และตั้งแต่ปล่อยเพลง Harmonia ไปทำงานอย่างเต็มที่ ก็กลายเป็นว่าสองสาวได้ใบเบิกทางสำหรับวงการเพลงไปอย่างรวดเร็ว แม้ช่วงซิงเกิ้ลที่สองอย่างเพลง Thank you หรือเพลง Komugi no Love Song จะยังไม่ค่อยถูกพูดถึงหรือได้รับความนิยมเหมือนกับซิงเกิ้ลเปิดตัวก็ตามแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้สองสาวหยุดความพยายามในการสร้างผลงานที่ตนเองรักจนเกิดเป็นซิงเกิ้ลที่สาม Blue Sky ที่ถูกนำไปประกอบละครช่วงเช้าของช่อง NHK เรื่อง Teru teru Kazoku ความนิยมของสองสาวยังไม่สิ้นสุดเมื่อปี 2004 ซิงเกิ้ลที่ 5 ก็ยังถูกนำไปประกอบละคร เรื่อง Hikaru to Tomo ni ของช่อง NTV ซึ่งดังมากในขณะนั้น และยอดขายก็ยังติดอันดับสูงสุดอันดับที่ 13 ของโอริก้อนชาร์ต อีกทั้ง ยังได้ถูกเชิญไปร่วมรายการชื่อดัง อย่างเช่น Music Station อีกด้วย หลังจากซิงเกิ้ล ที่ 5 ออกวางขายไป ก็ถึงเวลาอันสมควรที่สองสาวจะปล่อยสตูดิโออัลบั้มแรกที่ชื่อว่า Utatane ซึ่งยอดขายก็สูงไม่แพ้ซิงเกิ้ลเช่นกัน โดยวัดได้จากอัลบั้มนี้สามารถไต่ยอดขายไปถึงอันดับที่ 8 ในโอริก้อนชาร์ต


จนมาถึงช่วงปี 2005 หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการมาถึง 2 ปี ก็ได้เวลาพิสูจน์ผลงานของตัวเองอีกครั้ง ผ่านซิงเกิ้ลที่ 6 Houkigumo ที่ถูกนำไปประกอบอนิเมะขนมปังอย่างเรื่อง แชมเปี้ยนเจปัง สูตรดังเขย่าโลก ที่ไม่นานนักเพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงขวัญใจคนญี่ปุ่นและแฟนเพลงชาวไทยที่ได้ชมอนิเมะเรื่องนี้ เอกลักษณ์เรื่องเสียงประสานของทั้งสองสาวได้พาสาวๆเดินทางอยู่ในวงการมาถึงปี 2006 ในช่วงเดือนสิงหาคม สองสาวก็ได้ออกอัลบั้มที่สองอย่างอัลบั้ม Mugen Factory ซึ่งสามารถไต่อันดับโอริก้อนชาร์ตได้ถึงอันดับ 10 ซึ่งนับว่าได้รับความนิยมไม่น้อย
ณ ขณะนั้น ไม่ใช่แค่ผลงานเพลงหรือการแสดงสดเท่านั้นที่สองสาวต้องทำ แต่ยังมีกิจกรรมมากมายที่สองสาวต้องรับมือทั้ง การออกรายการวิทยุ หรือออกรายการแนวใหม่ที่ online ทางอินเทอร์เน็ตที่ชื่อ enjoy your time ร่วมไปถึงกิจกรรมปลูกต้นไม้ทั่วประเทศ รวมถึงการแสดงไลฟ์ทัวร์ตามโรงเรียนมัธยมซึ่ง กิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2006 จนเกิดเป็นโครงการไลฟ์ RYTHEM presents~Acoustic PoP~ ซึ่งกิจกรรมนี้จะประกอบด้วยงานจับมือแฟนเพลงซึ่งเป็นหมื่นๆคนที่ให้ความสนใจซึ่งก็ต้องจองซีดีซิ้งเกิลจึงจะได้จับมือและได้ลายเซ็นของสองสาวอย่าง Excusive


จนข้ามผ่านกาลเวลามาถึง 6 ปี การเริ่มต้นที่ใกล้ถึงทางตัน แต่สำหรับสองสาวนั้นเป็นเพียงเรื่องปกติ
สาวๆก็ยังปล่อบผลงานออกมาเรื่อยๆ ซึ่งก้าวมาถึงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามกับชื่อชุดง่ายๆว่า 23
ซึ่งในอัลบั้มนี้บรรจุเพลงฮิตติดหูหนุ่มๆสาวๆญี่ปุ่นไว้เยอะแยะมากมายอย่างเช่นเพลง Nekoze และอีกหลายๆเพลงที่ยังคงติดชาร์ตวิทยุ 
ถึงเวลาตัดผมสั้นปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ อย่างเพลง Tsunaide te ที่ครั้งนี้มาในแนวเพลง R&B ประสานอารมณ์
ดูเหมือนว่านี่ใกล้จะถึงทางตันของทั้งสองแล้วเมื่อยูอิประกาศยุติวง RYTHEM ที่ก้าวผ่านกาลเวลาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปี 2010 7 ปีแห่งการทำฝันของสองสาวใกล้ถึงวันแยกย้าย ซึ่งข่าวการประกาศยุบวงทำให้แฟนๆช็อกและเสียใจไปตามๆกัน แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่ก็อยากให้เป็นความฝัน แฟนๆหลายคนให้ความเห็นเอาไว้ผ่านคอมเม้นต์ตามบล๊อกต่างๆของทั้งสองสาว
เมื่อจะมีการร่ำลา การทำอัลบั้มสุดท้ายจึงเป็นการบอกลาที่ดูจะเหมาะสมที่สุดสำหรับทั้งสองคน
กับสตูดิโออัลบั้มสุดท้าย ที่มาในชื่อเดียวกับวง ว่า "RYTHEM" ได้ถูกวางขาย


เป็นการปิดตำนานวงดูโอ้หญิงไปอีกหนึ่งวง ที่แม้จะอยู่ในวงการไม่ถึงหนึ่งทศวรรษ แต่ก็ได้สร้างผลงานซิงเกิ้ลไว้ถึง 17 ซิงเกิ้ล กับอัลบั้มอีก 4 ชุด และดูเหมือนว่าผลงานเหล่านั้นก็ยังถูกนำมาใช้และยังคงได้รับความนิยมจากแฟนๆอยู่เสมอ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าผลงานที่เดินข้ามกาลเวลามาถึง 8 ปี ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความเก่าเลยสักนิด และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีแฟนๆหลายคนนึกถึงพวกเธอและยังอยากให้พวกเธอกลับมาอยู่เสมอ 
ซึ่งวงนี้เป็นอีกหนึ่งวงที่ยังไม่มีศิลปินคนใดล้มล้างตำแหน่งดูโอ้หญิงไปได้เลยแม้แต่คนเดียว

แล้วเจอกันเมื่อโลกต้องการนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตาม
และขอบคุณสำหรับการแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาจรและขาประจำ ขอบคุณทุกท่านครับ

:)

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

J.Artist Next to :: Ganbare! Victory ก้าวต่อมาในชายคา Pony Canyon

สวัสดีครับ
สำหรับวงดนตรีที่เป็นผู้หญิงล้วนปัจจุบันนี้มีอยู่มากมายนะครับ แต่ที่จะอยู่คงทนและมีผลงานให้แฟนๆหรือ Music Lovers ฟังอยู่บ่อยๆนั้นค่อนข้างมีน้อยนะครับ สำหรับวงการเพลงญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างน้อมรับแนวเพลงใหม่ๆอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในวงดนตรีหญิงล้วนในวงการเพลงญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งสีสันทางดนตรีที่สามารถสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย อีกหนึ่งวงที่เคยฝากผลงานให้แฟนๆอนิเมะได้รู้จักพวกเธอกันมาบ้างแล้วอย่างวง がんばれ!Victory (Ganbare! Victory) (ผมเคยเขียนสกู๊ปวงนี้ไว้ครับ ท่านใดสนใจ เชิญเลยครับ) ซึ่งเคยฝากเพลง Yume No Tsuzuki ซึ่งเป็นเพลง Ending Theme จากอนิเมะเรื่อง Baby Step SS2 จากวันที่เป็นเพียงวงดนตรีอินดี้ จนเวลาผ่านมาเกือบ 3 ปี ตอนนี้พวกเธอได้มีสังกัดและแฟนเพลงมากขึ้นกว่าตอนเริ่มวงแรกๆ ณ วันนี้ เส้นทางของพวกเธอมาอยู่ถึงจุดไหนแล้ว เรามาติดตามไปพร้อมๆกันนะครับ




ณ วันนี้พวกเธอได้มีสังกัดและบ้านที่หนุนหลังพวกเธออย่างสุดใจอย่างสังกัด PONY CANYON 
ซึ่ง PONY CANYON ก็ให้ความอบอุ่นและดูแลงานเพลงของพวกเธออย่างเต็มที่
โดยไม่ปิดกั้นอิสระทางดนตรีที่แต่ก่อนพวกเธอเคยมีสไตล์เป็นยังไงปัจจุบันนี้ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์เหล่านั้นไว้ครบทุกองค์ประกอบ เพียงแต่มีการพัฒนาทางด้านทักษะทางดนตรี การทำงานที่เป็นระบบรวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผมที่ดูเหมือนจะอัพเกรดขึ้นมาให้ดูมีสไตล์ที่โตขึ้นและเหมาะกับเพลงมากขึ้น
เราลองมาดูการพัฒนาของสไตล์เพลงและการแต่งตัวตามแต่และซิงเกิ้ลเพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงกันดีกว่าครับ



นี่เป็นสไตล์การแต่งตัวในช่วงที่เป็นวงอินดี้ตั้งแต่ช่วงอัลบั้ม KGSD จนถึงซิงเกิ้ล Fly High!!
เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ค่อนข้างเรียบง่ายเน้นความสบายเป็นหลัก ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ว่าสมาชิกทั้ง 5
จะใส่เสื้อยืดในสไตล์วงร็อคแบบอีโมๆ อย่างรูปวง KISS KISS หรือแม้กระทั่งปกอัลบั้ม KGSD ก็เป็นการถ่ายเลียนแบบปกอัลบั้มของวง KISS KISS นั้นก็เป็นเพราะว่า วง KISS KISS เป็นวงไอดอลของพวกเธอและแนวเพลงของวง KISS KISS ที่เป็นแนวเพลงที่สมาชิกทั้ง 5 เห็นชอบตรงกันจุดนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้สามาชิกทั้ง 5 คน มีรสนิยมที่เหมือนกันและก่อให้เกิดความคิดในการตั้งวงดนตรีขึ้นมานั่นเอง
สำหรับเพลงในช่วงอินดี้นั้นค่อนข้างเป็นดนตรีที่ไม่เน้นหนักมากแต่มีดนตรีที่จัดจ้านในซาวนด์กีต้าร์
และแนวดนตรีที่เน้นเพลงเร็วเป็นหลักไม่ว่าจะอัลบั้ม KGSD ร่วมไปถึง ซิงเกิ้ล Fly High!!


ยูนิฟอร์มซิงเกิ้ล Zenkyoku Start! / Yume no Tsuzuki
นี่เป็นยูนิฟอร์มที่ถูกเปิดตัวหลังจากการเข้ามาเมเจอร์เดบิวต์ที่ PONY CANYON
และเป็นภาพจำแรกที่ถูกบันทึกไว้กับซิงเกิ้ลที่ 5 ของวง (แต่เป็นเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 1 ของวง)
จะเรียกว่าเป็นชุดยูนิฟอร์มของการเล่นเบสบอลเลยก็ได้เพราะจริงๆมันก็ใช่
สำหรับชุดนี้ไม่มีรายละเอียดอะไรมากแต่เพียงวงต้องการสื่อให้รู้แนวทางของวงเท่านั้น
จึงคิดว่าชุดนี้เป็นชุดแรกที่อยากให้คนที่เริ่มฟังเพลงของวงนี้ได้ติดตามเป็นภาพจำ
ส่วนเพลงในซิงเกิ้ลนี้ค่อนข้างสนุกแต่ก็ยังเป็นทักษะดนตรีที่ยังไม่หนักหน่วงมากนัก
ส่วนเพลงที่น่าจับตามองน่าจะเป็นเพลง Yume no Tsuzuki ที่มีซิกส์เนเจอร์เป็นไลน์กีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวง ร่วมไปถึงการถูกนำไปประกอบอนิเมะ Baby Step SS2 จึงทำให้เพลงนี้ถูกจับตามอง
และทำให้วงนี้เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงญี่ปุ่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว



นี่เป็นยูนิฟอร์มประจำซิงเกิ้ล Lali Lali La เมเจอร์เดบิวต์ซิงเกิ้ลที่ 2 ที่ส่วนตัวแล้วผมมองว่า
เป็นซิงเกิ้ลที่ค่อนข้างกลมกล่อมทั้งในส่วนแนวเพลงที่มีดนตรีที่จัดจ้านขึ้น ซาวนด์กีต้าร์ที่ดุดัน
ร่วมไปถึงเสียงนกหวีดที่เพิ่มเติมเข้าไปช่วงท่อนโซโล่ถือเป็นเพลงที่สนุกอีกหนึ่งเพลง
นอกจากซาวนด์กีต้าร์ที่ดุเดือดยังมีเทคนิคการเล่นสเลปเบสของชิโนบุที่ใช้เกือบทั้งเพลง
ถือเป็นการโชว์สกิลการเล่นดนตรีที่ถูกยกระดับมากขึ้นกว่าผลงานก่อนๆ
ร่วมไปถึงไลน์คอรัสของวงที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษที่วงนี้ทำมาตลอด
ในส่วนของชุดยูนิฟอร์มสำหรับยูนิฟอร์มในซิงเกิ้ลนี้ค่อนข้างกระฉับกระเฉงและมีความสวยงามมากขึ้นกว่าซิงเกิ้ลที่แล้วแม้จะดูสปอร์ตๆแต่ก็ยังโชว์ความเป็นเด็กผู้หญิงได้


สำหรับซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง Seishun Hero!! ที่เพิ่งถูกปล่อยออกมาเมื่อช่วงต้นปี 2016
ต้องยอมรับเลยว่าซิงเกิ้ลนี้มีการพัฒนามากขึ้นกว่าซิงเกิ้ลก่อนจริงๆ
ส่วนตัวผมในเรื่องของเพลงไม่ค่อยปลื้มเท่าที่ควร 
ส่วนตัวยังคิดว่าไม่มีเพลงใดที่จะล้มล้างเพลง Lali Lali La ได้
แต่อีกใจก็ยอมรับว่าซิงเกิ้ลนี้ดนตรีก็ยังถูกประดิษฐ์ได้อย่างสุดๆเหมือนเดิม
และไม่ได้สูญเสียเอกลักษณ์ของวงไปแต่อย่างใด ทั้งในไลน์กีต้าร์ เบส หรือกระทั่งไลน์คอรัส
แต่ส่วนหนึ่งมองว่า เนื้อหาเพลงมันไม่ได้สนุกเหมือนกับดนตรี หรือไม่ค่อยไหลตามกัน
ส่วนเพลงอื่นๆในซิงเกิ้ลนี้ยังคงมาตรฐานเดิมที่ยังสนุกๆและพอฟังได้เหมือนเคย
สำหรับยูนิฟอร์มซิงเกิ้ลนี้ต้องบอกเลยว่า ผมปลื้มมากๆเพราะสวยกันทุกคนเลย
และค่อนข้างทิ้งห่างกับชุดยูนิฟอร์มในช่วงซิงเกิ้ลแรกๆไปอย่างสิ้นเชิงเลย
อาจจะเพราะว่าแต่ละคนโตเป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้นด้วย
สำหรับซิงเกิ้ลนี้ก็ยังโอเคในระดับนึง ซึ่งไม่ได้ดูแย่ และไม่ได้เพอร์เฟคเกินไปครับ


สำหรับวงดนตรีวงนี้ค่อนข้างมีแนวทางที่ชัดเจนและสำหรับความคิดส่วนตัวของผม
แล้วยังสามารถเดินไปได้อีกไกล ซึ่งตอนนี้ความนิยมของพวกเธอก็ค่อนข้างดีด้วย
แม้จะไม่ได้ดังเป็นพลุแตกเหมือนวงอื่นแต่การค่อยๆเดินไปตามทางก็สามารถทำให้พวกเธอมีชื่อเสียงได้
ยอมรับเลยนะครับว่า ทุกวันนี้แม้จะมีวงดนตรีหญิงล้วนอยู่ในสังคมญี่ปุ่นมากมายแต่ไม่ใช่ทุกวงนะครับ
ที่จะมีโอกาสได้ทำตามฝันจนสำเร็จหรือมีคนคอยหนุนหลังและเป็นกำลังใจให้แบบนี้
ทุกวันนี้พวกเธอยังคงทำงานเพลงกันอย่างเต็มที่ มีทั้งงานทัวร์ งานแสดงสดและศิลปินรับเชิญอยู่ไม่ขาดสาย
ซึ่งเร็วๆ นี้ พวกเธอเองก็กำลังจะมีงานเพลงที่เป็นสตูดิโออัลบั้มในชายคา PONY CANYON
ที่มีชื่ออัลบั้มว่า Judai Happyo ซึ่งสำหรับพวกเธอเองก็คงเป็นเรื่องเกินฝัน
สำหรับแฟนเพลงญี่ปุ่น หรือ Musiclovers ท่านใดชอบฟังเพลงวงหญิงล้วน
ก็ลองฟังเพลงของสาวๆวงนี้ดูนะครับ เชื่อว่าจะต้องชอบไม่มากก็น้อยละครับ
ฝากติดตามสาวๆ เกิร์ลแบนด์สายกีฬาอย่าง Ganbare! Victory ด้วยนะครับ

แล้วเจอกันเมื่อโลกต้องการนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตาม
และขอบคุณสำหรับการแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาจรและขาประจำ ขอบคุณทุกท่านครับ

:)